E-mail : klanwari@gmail.com             Tel - Line ID : 081 890 4988 

รายได้หลักของธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหารมาจากการขายอาหารและเครื่องดื่ม และช่วงขณะที่เป็นโอกาสทองของการขายก็คือขณะที่ลูกค้าสั่งอาหารและเครื่องดื่ม สถานการณ์ดังกล่าวหากพนักงานปล่อยให้โอกาสนั้นผ่านไปแล้วคือไม่ได้ทำการเพิ่มยอดการขายในขณะนั้น พอเลยเวลานั้นไปแล้วก็จะเป็นการยากที่จะทำการเพิ่มยอดการขายได้อีก ต้องยอมรับความจริงในการบริการที่ภัตตาคารหรือร้านอาหารว่าลูกค้าจะถามว่า "ที่นี่อะไรอร่อย" หรือ "มีอะไรแนะนำบ้าง" ไม่ว่าลูกค้าจะเพิ่งมาใช้บริการเป็นครั้งแรกที่ไม่คุ้นเคยกับรายการอาหาร แต่ขณะเดียวกันถึงแม้ลูกค้าที่เคยมาใช้บริการบ่อยแล้วก็มักจะถามอีอยู่ดี เพราะเผื่อมีอะไรใหม่หรือแปลก หรือ ต้องการให้พนักงานแนะนำให้ และที่สำคัญลูกค้าที่เดินเข้าห้องอาหารพร้อมสำหรับการจ่ายเงินแน่นอนเพียงแต่ว่าพนักงานสามารถที่จะเสนอเพื่อให้ลูกค้าจ่ายเท่าไร อย่างที่ลูกค้าพึงพอใจ

บริการดีมากแต่ยอดขายหรือรายได้ไม่เพิ่ม ทั้งๆ ที่แขกที่เข้ามารับประทานอาหารพร้อมจ่ายอยู่แล้ว เพียงแต่ขายให้ตรงตามที่เขาต้องการเท่านั้น พนักงานที่ทำหน้าที่บริการอาหารและเครื่องดื่มทุกคนไม่ใช่เฉพาะผู้ที่ทำหน้าที่รับคำสั่งอาหารและเครื่องดื่ม (Order Taker) หรือกัปตันเท่านั้น จำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนให้มีความรู้ความสามารถในการทำหน้าที่นักขายเพื่อเพิ่มยอดการขายผ่านกระบวนการรับคำสั่งอาหารและเครื่องดื่ม

เนื้อหาของการอบรม

1. ความแตกต่างระหว่างพนักงานรับคำสั่งอาหารและเครื่องดื่มและพนักงานขาย (The difference between order taker and sale person)

2. การขายรายการอาหารและเครื่องดื่มที่สามารถทำเงินได้มาก (High potential item to make money)

3. การขายโดยการแนะนำ (Suggestion technique)

4. การรับมือกับการถูกปฏิเสธ (Handling guests who refuses)

5. การเสนอทางเลือก (Suggest option)

6. การอธิบายรายการอาหารและเครื่องดื่มให้แขกอยากสั่ง (Effective describing)

7. การยืนยันการสั่งโดยการสังเกตท่าทางของแขก (Observing guests' behavior)

8. การปิดการขายขณะที่แขกลังเล (Closing sales for hesitant guests)

9. การสอบถามความพึงพอใจเพื่อหาช่องทางขายเพิ่ม (Ensure guests' satisfaction)

ผู้เข้ารับการอบรม

หัวหน้าพนักงานบริการอาหารและเครื่องดื่ม พนักงานที่รับออร์เดอร์ และพนักงานแผนกบริการอาหารและเครื่องดื่ม

ระยะเวลาในการอบรม

การอบรม 1 วัน ๆ ละ 6 ชั่วโมง (ถ้าฝึกอย่างจริงจังควรใช้เวลา 2 วัน)

วิธีการอบรม

การอบรมประกอบด้วยการบรรบาย ประกอบเอกสาร วีดิทัศน์ การสาธิตและการปฏิบัติจริง

จำนวนผู้เข้ารับการอบรม

ผู้เข้ารับการอบรมไม่ควรเกินคอร์สละ 20 คน

- เน้นการฝึกพูดเสนอรายการอาหารและเครื่องดื่ม ในสถานการณ์ต่างๆ

- วิทยากรจะมอบหมายโจทย์ภาคความรู้ ให้ผู้เข้ารับการอบรมเตรียมตัวก่อนวันอบรม เพื่อใช้ประกอบการปฏิบัติจริงในวันอบรม

- ทำอย่างอื่นรายได้จะเพิ่มหรือเปล่ายังไม่แน่ แต่ขายผ่านการแนะนำขณะรับคำสั่ง เห็นรายได้ที่เพิ่มแน่ๆ ทำวันนี้เงินเข้าวันนี้

 

 

 

ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหารเป็นธุรกิจที่เป็นงานเฉพาะด้านที่เกี่ยวกับทักษะสังคมในการใช้ชีวิตการกินการดื่ม ซึ่งต้องยอมรับว่าประเทศไทยก็ได้รับอิทธิพลทักษะสังคมนี้จากตะวันตก โดยนำมาเป็นต้นแบบและประยุกต์ให้เข้ากับวัฒนธรรมของสังคมไทย ซึ่งในปัจจุบันไม่ใช่เฉพาะการบริการอาหารเครื่องดื่มให้กับลูกค้าชาวตะวันตกด้วยมาตรฐานสากลแบบมืออาชีพเท่านั้น นักท่องเที่ยวหรือลูกค้าชาวไทยก็รับทราบและคาดหวังในการบริการที่เป็นมาตรฐานสากลเช่นเดียวกัน

พนักงานที่ทำงานหรือจะทำงานการบริการอาหารและเครื่องดื่มควรต้องเรียนรู้หลักการ มาตรฐานการบริการแบบสากลอย่างมืออาชีพ เพื่อตอบสนองลูกค้าที่ใช้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เนื้อหาของการอบรม

1. บทบาทและหน้าที่ของพนักงานบริการอาหารและเครื่องดื่ม (Role and responsibilities of waiter and waitress)

2. ระเบียบปฏิบัติในสถานที่ทำงานและต่อลูกค้า (Discipline of waiters and waitresses)

3. ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (Introduction to Food and Beverage business)

4. ความรู้เกี่ยวกับเครื่องมือเครื่องใช้ในการบริการอาหารและเครื่องดื่ม (Knowledge of F&B equipment)

5. การทำความสะอาดและการเตรียมการบริการ (Restaurant preparation)

6. สุขอนามัยเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มและอนามัยส่วนบุคคล (Food and personal hygiene)

7. การจัดโต๊ะอาหาร (How to set-up dining table)

8. ความรู้เกี่ยวกับรายการอาหารและเครื่องดื่ม (Menu and beverage knowledge)

9. การต้อนรับและการรับคำสั่งอาหารและเครื่องดื่ม (Greeting and food and beverage order taking)

10. การให้การแนะนำในการสั่งอาหารและเทคนิคการขาย (Food and beverage recommendation and selling techniques)

11. การเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่ม (How to serve food and beverage)

12. การดูและและเอาใจใส่ลูกค้า (How to take care of guests)

13. การเก็บโต๊ะ ถอนจาน (Clearing dining table)

14. การเก็บเงิน (Billing process)

ผู้เข้ารับการอบรม

พนักงานแผนกบริการอาหารและเครื่องดื่ม และพนักงานแผนกอื่นที่อาจได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่บริการอาหารและเครื่องดื่มด้วย

ระยะเวลาในการอบรม

การอบรม 2 วัน ๆ ละ 6 ชั่วโมง

วิธีการอบรม

การอบรมประกอบด้วยการบรรบาย ประกอบเอกสาร วีดิทัศน์ การสาธิตและการปฏิบัติจริง

จำนวนผู้เข้ารับการอบรม

ผู้เข้ารับการอบรมไม่ควรเกินคอร์สละ 30 คน

ข้อมูลที่ต้องทราบก่อนการดำเนินการอบรม เพื่อให้การอบรมประสิทธิภาพสูงสุด

1. ประเภทของภัตตาคารหรือร้านอาหาร เช่น ร้านอาหารไทย จีน หรือฝรั่ง หรือมีบาร์เครื่องดื่มด้วยหรือไม่ หรือเป็นบาร์เน้นขายเครื่องดื่ม ฯลฯ

2. ประเภทของการบริการทำดำเนินการอยู่ เสิร์ฟเป็นจาน หรือเป็นเซ็ต มีจัดเลี้ยงด้วยหรือไม่ ฯลฯ

3. มีแขกชาวต่างชาติ ที่พนักงานต้องใช้ภาษาอังกฤษด้วยหรือไม่

4. จำนวนพนักงาน

ทำการตลาดด้วยคุณภาพของอาหารและการบริการ ผ่านแขกหรือลูกค้าที่กำลังใช้บริการอยู่ในขณะนี้ ตอนนี้ นี่แหละดีที่สุด

หัวหน้างานหรือ Supervisor มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการดำเนินงานในองค์กร เพราะเขาเหล่านั้นเป็นพนักงานที่ต้องสื่อสารรับนโยบายจากผู้บริหารและนำมาประสานร่วมงานกับพนักงานระดับปฏิบัติการให้เกิดผลสำเร็จตามเป้าหมายขององค์กร ผู้บริหารระดับสูงไม่สามารถมาควบคุมการปฏิบัติงานของพนักงานระดับปฏิบัติการได้ทั้งหมดจึงจำเป็นต้องฝากความคาดหวังไว้กับ Supervisor

โดยทั่วไปการคัดคัดเลือกหรือแต่งตั้งหัวหน้างาน ก็จะทำกการคัดเลือกจากพนักงานระดับปฏิบัติการที่มีผลการทำงานดี มีพฤติกรรมที่ดีเป็นที่ไว้วางใจได้ แต่งานที่ทำได้ดีอยู่เดิมนั้นเป็นการทำงานที่สำเร็จด้วยตนเองเป็นหลัก แต่การเป็นหัวหน้างานเป็นการทำงานที่ให้งานสำเร็จโดยผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ใต้บังคับบัญชา และการประสานกับแผนกต่างๆ มากขึ้น ลักษณะการทำงานจะเปลี่ยนไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง คือเปลี่ยนจากการทำงานกับงานเป็นการทำงานกับคน ซึ่งมีเงื่อนไข เทคนิคและปัญหามากขึ้นจากเดิมมาก บ่อยครั้งที่พบว่าผู้ที่ทำหน้าที่หัวหน้างานยังคงปฏิบัติงานในเนื้องานที่เคยชินอยู่ ไม่กระจายงาน ไม่ติดตามงาน ไม่สอนงาน เป็นต้น

ดังนั้นหัวหน้างานไม่ว่าเพิ่งจะได้รับการแต่งตั้ง หรือปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานอยู่แล้ว หรือแม้แต่พนักงาที่มีศักยภาพที่จะเตรียมตัวขึ้นเป็นหัวหน้างานควรได้รับการอบรมสำหรับการเป็นหัวอน้าที่ดี ซึ่งต้องอาศัยการอบรมบ่มเพาะอย่างเหมาะสม

เนื้อหาของการอบรม

1. บาทบาทหน้าที่ของการเป็นหัวหน้างาน (Role and responsibility of supervisor)

2. การสร้างแรงจูงใจ (Staff motivation technique)

3. การกระจายงานและมอบหมายงาน (Job delegation)

4. การเป็นผู้นำ (Leadership skill for supervisor)

5. การติดตามงาน (Job following up)

6. การประเมินผลงานและการให้ Feedback (Performance appraisal and giving feedback)

ผู้เข้ารับการอบรม

ผู้ช่วยผู้จัดการแผนก หัวหน้างาน และพนักงานที่เตรียมขึ้นเป็นหัวหน้างาน

ระยะเวลาในการอบรม

การอบรม 1 วัน ๆ ละ 6 ชั่วโมง

วิธีการอบรม

การอบรมประกอบด้วยการบรรบาย ประกอบเอกสาร และฝึกปฏิบัติ

จำนวนผู้เข้ารับการอบรม

ผู้เข้ารับการอบรมไม่ควรเกินคอร์สละ 20 คน

เจ้าของหรือผู้จัดการ ถ้าไม่มีหัวหน้างานที่มีประสิทธิภาพรับช่วงต่อ ก็เหมือนขาดแขนซ้ายแขนขวา

การดำเนินงานในหน่วยงานต่างๆ ต้องมีการพัฒนาเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมและการแข่งขัน บุคลากรในระดับผู้บริหารและระดับหัวหน้างานเป็นผู้ที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการผลักดันให้เกิดการพัฒนาการทำงานขององค์กร โดยเฉพาะด้านมาตรฐานและคุณภาพ แต่ผู้บริหารและหัวหน้างานก็ต้องอาศัยการทำงานโดยให้พนักงานในระดับปฏิบัติการเป็นผู้ทำงานนั้น บ่อยครั้งที่ผู้บริหารและหัวหน้างานมีความรู้และความสามารถในการทำงานเป็นอย่างดีแต่ไม่สามารถถ่ายทอดให้พนักงานรู้ เข้าใจ และปฏิบัติงานได้ตามมาตรฐานและขั้นตอนที่ควรเป็น

เทคนิคของการสอนงานจึงจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้บริหารและหัวหน้างานที่จะต้องสร้างให้เกิดทักษะเพื่อสามารถถ่ายทอดการทำงานและแนวทางให้พนักงานได้มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถปฏิบัติงานตามที่ผู้บริหารและหัวหน้างานคาดหวังได้

เนื้อหาของการอบรม

1. การวิเคราะห์หาความจำเป็นในการฝึกอบรม (Training needs analysis)

2. การกำหนดวัตถุประสงค์ของการฝึกอบรมที่จะดำเนินการขึ้น (Setting up training objective)

3. การเขียนแผนการฝึกอบรม (Training plan)

4. การเตรียมการฝึกอบรม (Training preparation)

5. การดำเนินการสอน (Conducting training)

6. เทคนิคการสอนและการสร้างแรงจูงใจ (Training and motivation technique)

7. การประเมินผลการสอน (Training evaluation)

8. การติดตามผลการนำไปใช้ในการปฏิบัติงาน (Following up an application on the job)

ผู้เข้ารับการอบรม

ผู้จัดการ หัวหน้างาน และพนักงานที่มีศักยภาพในการสอนงาน

ระยะเวลาในการอบรม

การอบรม 2 - 3  วัน ๆ ละ 6 ชั่วโมง

วิธีการอบรม

การอบรมประกอบด้วยการบรรบาย ประกอบเอกสาร วีดิทัศน์ และผู้เข้ารับการอบรมลงมือปฏิบัติจริง

จำนวนผู้เข้ารับการอบรม

เนื่องจากหลักสูตรนี้เน้นการฝึกปฏิบัติทำการสอนจริงซึ่งต้องใช้เวลาของแต่ละคน เพื่อให้ได้ผลอย่างจริงจัง ผู้เข้ารับการอบรมไม่ควรเกินคอร์สละ 20 คน

เน้นการปฎิบัติ หาและสร้างสิ่งที่จะสอนได้ด้วยตนเอง ลงมือสอนงานได้จริง ทำแผนการสอน และติดตามผล

คอร์สนี้ไม่เน้นการนำเสนอแบบนักพูด (Speaker)  แต่เน้นการเป็นผู้สอนงาน (Trainer) โดยเฉพาะ On-the-Job Training

การดำเนินการในธุรกิจการให้บริการโดยเฉพาะธุรกิจการโรงแรม การท่องเที่ยว และธุรกิจที่ต้องมีลูกค้ามารับบริการ เป็นการดำเนินงานที่ต้องใช้บุคลากรเป็นหลัก นับตั้งแต่ก้าวแรกที่ลูกค้าเดินทางมาถึงสถานประกอบการนั้นๆ ความพึงพอใจหรือไม่พึงพอใจก็เกิดขึ้นจากการให้การต้อนรับของพนักงานที่พบเจอในครั้งแรก ได้รับการบริการตามกระบวนการ จนกระทั่งเสร็จสิ้นการบริการ ยิ่งในปัจจุบันสินค้าต่างๆ สามารถผลิตให้ได้มาตรฐานด้วยเทคโนโลยีที่แทบจะไม่แตกต่างกันเท่าไร ธุรกิจจะชนะกันก็ตรงการให้บริการนี่แหละ

การเปลี่ยนแปลงด้านวัตถุหรือสถานที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่วัน แต่การจะเปลียนแปลงพนักงานให้มีพฤติกรรมและโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านทัศนคติให้ได้ตามความคาดหวังของธุรกิจ จำเป็นต้องอาศัยเวลาและวิธีการที่เหมาะสมโดยผู้ที่อยู่ในแวดวงที่เข้าใจกันและกัน สามารถพูดภาษาเดียวกันได้

เนื้อหาของการอบรม

1. ลักษณะเฉพาะของธุรกิจการให้บริการ (Characteristic of Service Business)

2. บทบาทหน้าที่ของการเป็นผู้ให้บริการ (Role and Responsibility of Service Personnel)

3. หลักความคาดหวังและการตอบสนอง (Principle of Expectation and Satisfaction)

4. มาตรฐานของการให้บริการ (Standard of Service)

5. การสื่อสารเพื่อการบริการ (Communication for Service)

6. การแก้ปัญหาในการบริการ (Service Recovery)

ผู้เข้ารับการอบรม

พนักงานที่ทำหน้าที่ให้การต้อนรับหรือที่ต้องประสานสัมผัสกับลูกค้าในธุรกิจการให้บริการ

ระยะเวลาในการอบรม

การอบรม 1 วัน ๆ ละ 6 ชั่วโมง

วิธีการอบรม

การอบรมประกอบด้วยการบรรยาย สาธิต กิจกรรมกลุ่ม ประกอบเอกสารและวิดีทัศน์

ลูกค้าที่มาใช้บริการแล้วบอกต่อว่าธุรกิจเราบริการดี เป็นการรับรองและประชาสัมพันธ์ที่ได้ผลดีที่สุด เป็นการตลาดที่ลงทุนน้อยที่สุดแต่ได้ผลมากที่สุด

กรุณาคลิกเพื่อดูรายละเอียดแต่ละหัวข้อเพิ่มเติม
  บริการวิเคราะห์ปัญหาและอุปสรรค์เพื่อพัฒนาการให้บริการลูกค้าและพัฒนาระบบงานให้บริการ
  การสร้างทัศนคติที่ดีในการทำงาน (Building Good Attitude at Work)
  หัวใจของการบริการ (Principle of Hospitality) 
  แค็ดดี้สนามกอล์ฟมืออาชีพ (Professional Golf Caddie)
  การบริการอาหารและเครื่องดื่ม (Food and Beverage Service) 
  การเพิ่มยอดการขายผ่านการรับคำสั่งอาหารและเครื่องดื่ม (FB Up-Selling Technique) 
  มารยาทการรับประทานอาหารแบบสากล (Dining Etiquette)
  หลักการเป็นหัวหน้างาน (Principle of Supervisor)
  การสอนงาน (Train The Trainer)
  การสื่อสารเพื่อการจัดการการบริการ (Communication for Service Business)
  การวิเคราะห์อุปสรรรคและปัญหาในการให้บริการและการจัดการและการปรับปรุง (Problem Analysis and Improvement Procedure for Customer Service and Management)  
  การจัดทำกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบ (Job Description)  
  การจัดทำมาตรฐานการบริการและเช็คลิส (Service Standard of Procedure - SOP and Checklist)
  การทำงานร่วมกันเป็นทีม (Working as One Team)
  ผู้นำและการจัดการ (Leader and Management)
  การสร้างทัศนคติที่ดีในการทำงาน (Building Good Attitude at Work)


สามารถปรับหรือผสมผสานหัวข้อหลักสูตรตามความเหมาะสมของแต่ละความต้องการของธุรกิจและแต่ละองค์กร (Tailor-Made Courses) ซึ่งทุกระดับตำแหน่งของธุรกิจบริการจะมีเรื่อง การเป็นผู้นำ การสื่อสาร การประสานงาน แทรกอยู่

หัวข้อหลักสูตรที่เห็นโดยทั่วไปเป็นเพียงแนวคร่าวๆ เท่านั้น ทั้งนี้การฝึกอบรมที่ได้ผลดีที่สุดคือ ต้องแก้ปัญหาและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ไปตามความคาดหวังขององค์กร ดังนั้จึงต้องมีการร่วมกันจัดเนื้อหาให้ตรงกับหน่วยงานให้มากที่สุด และควรเป็นเฉพาะขององค์นั้นๆ โดยเฉพาะ

การจัดอบรมให้ได้ผลดีที่สุด คือ การสร้างระบบให้เห็นทั้งแผงทั้งหมดก่อน แล้วจึงค่อยดำเนินการจัดการอบรมในส่วนที่เหมาะสมเป็นเรื่องๆ ไป จัดหาวิทยากรที่เหมาะสมกับเรื่องนั้นๆ อีกที จะได้ไม่เกิดอาการได้นี่แล้วก็ขาดนั่น และที่สำคัญคือต้องจัดวิธีและเวลาในการติดตามผลการปฏิบัติงานหลังการอบรม เพื่อไม่ให้เกิดสิ่งที่ตามคือ "อบรมแล้วไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย"

 

ติดต่อเรา

นัฐพล กลั่นวารี
Nattapol Klanwari

  • Tel (Thailand) 66-081 890 4988
  • Line ID : 081 890 4988
  • Tel (Canada) 1 - 437 775 2478
  • Email : klanwari@gmail.com

 

สุนันทา

  • Tel : 090 917 9523

ติดตามเรา

การอบรมพร้อมกับการสนับสนุน

การอบรมเป็นวิธีการหนึ่งที่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้ง ความรู้ ทักษะและทัศนคติ ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะได้ผลมากยิ่งขึ้น ถ้าปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องเกื้อหนุนด้วย ปัจจัยที่มีผลมากที่สุดคือผู้บริหารหรือผู้นำที่จะก่อให้เกิดปัจจัยเกื้อหนุนเหล่านั้น


คลิ๊กเพื่อดูหลักสูตรทั้งหมดพร้อมรายละเอียด

สถิติการเข้าชม (Since June 20, 2019)

1871170
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
817
1047
6727
1856747
12256
39808
1871170

Your IP: 18.116.67.230
2025-04-11 16:11
© 2017 Sj TheCool - Joomla Responsive Template. All Rights Reserved. Designed By SmartAddons">SmartAddons.com

Search