E-mail : klanwari@gmail.com             Tel - Line ID : 081 890 4988 

ความรับผิดชอบ (Responsibilities) VS อำนาจ (Authority) ของ Supervisor 2/2

Written by Nattapol Klanwari

การทำหน้าที่รับผิดชอบ (Responsibilities)ในแหน่งต่างๆ จะมีระดับความรับผิดชอบแตกต่างกันไป ทั้งนี้ความรับผิดชอบนั้นจะต้องมีอำนาจหรือสิทธิ์ (Authority) ที่เหมาะสมกับความรับผิดชอบนั้นๆ เพื่อให้การทำหน้าที่หรือรับผิดชอบนั้นเป็นไปด้วยความมีประสิทธิภาพ

บทความที่แล้วผมได้เขียนเรื่องความรับผิดชอบ (Responsibilities) ของการเป็นหัวหน้างาน (Supervisor) สามารถคลิ๊กอ่านประกอบการทำความเข้าใจในบทความนี้ได้ที่ที่ลิ๊งค์นี้ https://trainingreform.com/index.php/training-blog/270-training-blog-156

ดังที่กล่าวมาแล้วว่าหน้าที่ความรับผิดชอบต้องมีเครื่องมือในการทำหน้าที่ที่เหมาะสม เปรียบเสมือนมีเครื่องมือหรืออาวุธในมือเพื่อให้ใช้ สำหรับการทำหน้าที่ความรับผิดชอบ หัวหน้างานต้องมีสิทธิหรืออำนาจ (Authority) ดังต่อไปนี้

     1. อำนาจด้านการมอบหมาย (Conferred Authority)

     2. ความรู้ (Knowledge)

     3. คุณสมบัติเฉพาะตัว (Personal Quality)

มาดูรายละเอียดของอำนาจในแต่ละด้านกัน

1. อำนาจด้านการมอบหมาย (Conferred Authority)

แน่นอนว่าก่อนอื่นก็ต้องได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่หัวหน้างานอย่างเป็นทางการ มีการออกเอกสารแต่งตั้งและประกาศให้พนักงานคนอื่นได้รับทราบทั่วกัน นอกเหนือจากการแต่งตั้งจะมีปัจจัยอื่นประกอบด้วย คือ

  • มีโอกาสได้รับการศึกษาหรือฝึกอบรมด้านการจัดการ (Management) ในภาพรวมของการทำงานและขององค์กร
    • เพื่อการทำหน้าที่หัวหน้างานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะในอดีตที่ผ่านมาจะเป็นการทำงานด้านเทคนิดเป็นส่วนใหญ่
  • การได้ทำหน้าที่บริหารจริงๆ
    • ในเมื่อฝ่ายบริหารแต่งตั้งเขาขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งของทีมการบริหารจัดการแล้ว ถึงแม้จะเป็นการจัดการระต้น ก็ต้องถือว่าเขาอยู่ในทีมการบริหารจัดการแล้ว ดังนั้นต้องให้เขาได้ทำหน้าที่บริหารจัดการจริง เช่น ต้องให้เข้าร่วมประชุม มีสิทธิออกความคิดเห็น เป็นส่วนหนึ่งของการร่วมตัดสินใจในส่วนที่เหมาะสมด้วย

  • การได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม
    • โดยมากก็จะเป็นค่าตำแหน่งเพิ่ม พร้อมสิทธิอื่นๆ เช่น ค่าเดินทาง ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ฯลฯ ที่มีมากกว่าพนักงานระดับปฏิบัติการ
  • ได้รับข้อมูลทั้งระดับบนและระดับล่าง
    • เนื่องจากหัวหน้างานเป็นตัวกลางระหว่างผู้จัดการและพนักงาน ดังนั้นหัวหน้างานต้องได้รับข้อมูลทั้งจากฝ่ายบริหารและจากพนักงานเพื่อการดำเนินงานหรือตัดสินใจได้ในระดับที่เหมาะสม

 2. ความรู้ที่มี (Knowledge)

ความรู้ของคนที่ขึ้นมาเป็นหัวหน้างานทั้งในส่วนงานเทคนิคพื้นฐานของงานที่ทำ และความรู้อื่นที่ประกอบการเป็นหัวหน้างานเป็นสิ่งที่จะสนับสนุนการทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดีอีกส่วนหนึ่ง ทั้งนี้สิ่งที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากคือคำว่า "ระยะเวลาของประสบการณ์" โดยเฉพาะเรื่องการนำเอาระยะเวลาทำงานมาเป็นตัวกำหนดว่าใครทำงานมานานกว่ากัน คนนั้นมีประสบการณ์ทำงานมากี่ปี เป็นต้น



ตัวอย่างในภาพกราฟด้านบน นาย ก ประสบการณ์ทำงาน 20 ปี นาย ข มีประสบการณ์ทำงาน 10 แต่เมื่อเปรียบเทียบคุณภาพและสิ่งต่างๆ ที่นาย ข มีอาจเช่น ความรับผิดชอบที่หลากหลาย พัฒนาการใช้ภาษาอังกฤษได้ดีกว่า มีความคิดริเริ่มที่มากกว่า ฯลฯ และที่สำคัญนาย ข มีคุณภาพของงานเมื่อเริ่มเข้าทำงานน้อยกว่านาย ก ด้วย แต่ถ้านาย ก มีจำนวนปีของประสบการณ์มากกว่า คุณภาพการทำงานดีกว่านาย ข นั่นก็ยิ่งดีขึ้นไปใหญ่ คือ นาย ก จะมีประสบการณ์และคุณภาพ ดังนั้นการที่แต่งตั้งหรือให้ตำแหน่งโดยใช้จำนวนปีการทำงานเพียงอย่างเดียวหรือที่เรียกว่า ตามลำดับอาวุโสก็คงจะไม่เหมาะสมเท่าไร

อำนาจโดยความรู้ที่มี สามารถพัฒนาได้โดย

  • การรับการฝึกอบรม โดยเฉพาะในเรื่องเฉพาะที่จำเป็นของตนเอง
    • แต่ละคนที่ก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้างานก็จะมีจุดที่ต้องได้รับการอบรมหรือฝึกฝนที่แตกต่างกันออกไป เช่น บางคนไม่เคยจับงานเอกสารมาเลย แต่ต้องมาเขียนรายงาน ก็ต้องได้รับการฝึกอบรมเรื่องการเขียนรายงาน เป็นต้น
  • การได้รับข่าวสารข้อมูลจากฝ่ายบริหาร หรือการชี้แนะจากผู้บริหาร

ทั้งนี้ ความรู้สามารถพัฒนากันได้ไม่ยาก ถ้าไม่ปิดกั้นตัวเอง

3. อำนาจโดยคุณสมบัติเฉพาะบุคคลหรือเฉพาะตัว (Personal Quality) ประกอบด้วย

  • มีความตื่นตัวอยู่เสมอ
    • เป็นคนที่ Active ไม่เฉื่อยชา

  • ทำงานด้วยความมีทัศนคติที่ดีที่เป็นตัวอย่างได้
    • สามารถเป็นตัวอย่างที่ดี แม้กระทั้งทัศนคติที่ดีที่มีต่อลูกค้า องค์กร อาชีพการทำงาน

  • เป็นผู้ฟังที่ดี
    • เป็นผู้ที่รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง และลูกค้า



Photo by Mimi Thian on Unsplash

  • อดทนต่อความกดดันได้
    • การทำงานในตำแหน่งหัวหน้างานจะต้องรับผิดชอบทั้งงานและพนักงาน ตลอดจนบุคคลจากแผนกอื่น การอดทดอดกลั้นต่อสิ่งที่เข้ามากระทบเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง

  • มีความยุติธรรม
    • ต้องเป็นการแสดงออกถึงการกระทำที่เห็นถึงความยุติธรรมได้อย่างชัดเจน ประกอบกับการสื่อสารว่า "ทำไม" ถึงทำเช่นนั้น

  • มีการจัดการที่ดี (Well Managed)
    • การจัดการในทุกๆ ด้าน ทั้งงาน และเรื่องของตัวเอง

  • สามารถลดบรรยากาศความตึงเครียดได้
    • นอกเหนือจากความอดทนต่อความกดดันแล้วยังต้องเป็นผู้ที่ลดความตึงเครียดของสถานการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่เจ้าอารมณ์ หรือเป็นผู้เติมเชื้อเพลิงเข้ากองไฟเข้าไปอีก แต่ก็ไม่ใช่ตลกจนไม่รู้จักกาลเทศะ

  • มองการณ์ไกล
    • สามารถที่จะมองเห็นในสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากผลของการกระทำหนึ่ง ว่าจะเกิดผลดีผลเสียอย่างไรต่อไปในอนาคต

  • มีความเป็นมิตรแต่ไม่ถึงกับเล่น
    • เป็นมิตรกับคนทุกคน แต่ไม่ถึงกับเล่นหัวเล่นหางจนมองดูไม่น่าเชื่อถือ

  • มีธรรมชาติของการเป็นผู้นำ
    • จริงอยู่ว่าการเป็นผู้นำสามารถสร้างหรือเพิ่มเติมกันได้ แต่ถ้ามีคุณสมบัตินี้ติดตัวมาก่อนก็จะเป็นผลดี เพราะการเปลี่ยนพฤติกรรมที่คุ้นชินมาแล้ว ค่อนข้างเป็นเรื่องยากและต้องใช้เวลา

  • มีสุขภาพที่ดี
    • สุขภาพที่ดีของทั้งร่างกายและจิตใจ องค์กรคงไม่ต้องการอุ้มหัวหน้างานที่ 3 วันดี 4 วันลาป่วย

  • ให้เกียรติพนักงาน
    • ใครๆ ก็ต้องการการให้เกียรติไม่ว่าจะเป็นคนระดับไหน คนที่จะเป็นหัวหน้างานต้องแสดงพฤติกรรมในการให้เกียรติพนักงานทั้งต่อหน้าและลับหลัง

คุณสมบัติเฉพาะตัวหรือเฉพาะบุคคลนี่แหละครับที่เป็นสิ่งที่จะส่งเสริมหรือ บั่นทอนการทำหน้าที่ของการเป็นหัวหน้างานที่สำคัญที่สุด เราอาจสังเกตเห็นได้ในบางองค์กรว่าพนักงานเชื่อถือรุ่นพี่คนหนึ่งที่ไม่ได้เป็นหัวหน้างานมากว่าหัวหน้างานจริงด้วยซ้ำไป เพราะ Personal Quality เป็นตัวสร้างความเชื่อมั่น หรือความศรัทธา (Trust) หรือเรียกง่ายๆ ว่าภาวะของการเป็นผู้นำ (Leadership) ที่พนักงานอยากทำตามหรือร่วมทำงานด้วย

Photo by Jannis Lucas on Unsplash

ติดต่อเรา

นัฐพล กลั่นวารี
Nattapol Klanwari

  • Tel (Thailand) 66-081 890 4988
  • Line ID : 081 890 4988
  • Tel (Canada) 1 - 437 775 2478
  • Email : klanwari@gmail.com

 

สุนันทา

  • Tel : 090 917 9523

ติดตามเรา

การอบรมพร้อมกับการสนับสนุน

การอบรมเป็นวิธีการหนึ่งที่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้ง ความรู้ ทักษะและทัศนคติ ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะได้ผลมากยิ่งขึ้น ถ้าปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องเกื้อหนุนด้วย ปัจจัยที่มีผลมากที่สุดคือผู้บริหารหรือผู้นำที่จะก่อให้เกิดปัจจัยเกื้อหนุนเหล่านั้น


คลิ๊กเพื่อดูหลักสูตรทั้งหมดพร้อมรายละเอียด

สถิติการเข้าชม (Since June 20, 2019)

1142670
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
1206
1282
8709
1125224
32188
43068
1142670

Your IP: 34.238.189.240
2023-03-26 17:56
© 2017 Sj TheCool - Joomla Responsive Template. All Rights Reserved. Designed By SmartAddons">SmartAddons.com

Search