Written by : Nattapol Klanwari
เรื่องของที่พักโรงแรมก็มีผู้เล่นที่เกี่ยวข้องคือ นักลงทุนที่หวังสร้างรายได้และกำไร ผู้เข้าพักที่ต้องการที่พักที่ดี ราคาที่รับได้ และพนักงานที่สามารถทำงานสร้างรายได้ตามเงื่อนไขของแต่ละคน
ผมได้เขียนเกี่ยวกับโรงแรม Toyoko Inn ที่ได้ใช้บริการเข้าพักที่ประเทศญี่ปุ่น (https://trainingreform.com/index.php/training-blog/198-training-blog-101) ซึ่งเป็นโรงแรมแบบประหยัดตั้งอยู่ใกล้แหล่งชุมชนโดยเฉพาะสถานีรถไฟฟ้า ในขณะเดียวกันก็พยายามหาตัวอย่างโรงแรมประเภทนี้ในประเทศไทยที่ตอบโจทย์ในการเดินทางไปยังจังหวัดต่างๆ ที่มีมาตรฐาน ไม่ต้องหรูหรามากแต่ราคาพอรับได้
เมื่อกลางเดือนมกราคมผมได้มีโอกาสเดินทางไปทำงานที่จังหวัดเชียงราย เจ้าภาพที่จังหวัดเชียงรายก็ได้จัดให้เข้าพักที่โรงแรม Hop Inn Chiang Rai ก็พบว่าเป็นโรงแรมที่ตอบโจทย์สำหรับการเข้าพักของผม และการยกเป็นตัวอย่างเวลาทำการอบรมเรื่องการจัดการโรงแรมซึ่งผู้เข้ารับการอบรมที่เป็นผู้บริหารและผู้ประกอบการรายใหม่ต้องการแนวทางในการก่อตั้งและการบริหารจัดการ คำถามหลักที่มักจะพูดคุยกันคือเปิดห้องพักเท่านี้จะต้องใช้พนักงานกี่คนเพราะต้องเกี่ยวกับค่าจ้างแรงงานที่ตามมาเป็นเงาตามตัว ผมก็พยายามที่จะต้องตั้งคำถามว่าแล้วจะจัดบริการอะไรให้กับแขกที่เข้าพักบ้าง แต่ก็มีผู้เข้ารับการอบรมหลายท่านยังติดกับภาพของโรงแรม 5 ดาวหรือย่างน้อยก็ 4 ดาว เรียกว่าจัดเต็มแพ็คกันเลยทีเดียว และท้ายสุดก็ลงที่คำถามต่อไปว่าแล้วจะหาคนที่ไหนมาทำงาน
บทความนี้ผมขอนำเสนอการใช้บริการในภาพรวมของแขกผู้เข้าใช้บริการและมีข้อมูลที่สอดแทรกอยู่
Hop Inn เป็นโรงแรมที่ตั้งกระจายอยู่ตามจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวในใจกลางเมืองมากกว่า 30 จังหวัดทั่วประเทศไทย การเช็คห้องว่างและการจองก็ง่ายโดยผ่านเว็บไซท์ https://www.hopinnhotel.com/
ผมเข้าพักที่โรงแรม Hop Inn เชียงราย เป็นตึก 4 ชั้น มีห้องพักจำนวน 70 ห้อง วันธรรมดา ราคาค่าห้องพัก 800 บาท เป็นโรงแรมที่ไม่มีห้องอาหาร ไม่มีการบริการอาหารเช้า เคาน์เตอร์เช็คอินกระทัดรัด พนักงานปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรวดเร็ว ขอรับบัตรประจำตัว ถ่ายเอกสารคู่กับบัตรลงทะเบียน (Registration Card) ให้แขกกรอก
เมื่อเช็คอินเสร็จพนักงานก็ให้คีย์การ์ดพร้อมแท็กที่ระบุหมายเลขห้องคล้องรวมไว้ด้วยกันในห่วงกลม ทำให้ทราบหมายเลขห้อง โรงแรมบางแห่งให้การ์ดแต่ไม่ระบุหมายเลขห้อง แขกจะต้องใช้คีย์การ์ดในการแตะเปิดประตูกระจกเข้าไปบริเวณทางขึ้นห้องพัก ผู้ที่ไม่มีการ์ดไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ แขกต้องนำกระเป๋าขึ้นไปยังห้องพักด้วยตนเอง
เตียงนอนขนาด King Bed นอนสบายๆ สำหรับสองคน ภาพอาจทำให้เตียงนอนดูเล็กลงไปนิด
โต๊ะหัวเตียงเล็กกระทัดรัด มีปลั๊กเสียบไฟฟ้าให้ใช้เห็นได้ชัดเจน
ทีวีจอแบนติดผนังไม่ทำให้เปลืองพื้นที่
ผ้าเช็ดตัวแขวนไว้ให้สองผืน ไม่มีผ้าเช็ดหน้า ไม่มีผ้าเช็ดมือ มีป้ายแจ้งหากต้องการให้เปลี่ยนผ้าเช็ดตัวให้วางผ้าเช็ดตัวไว้ที่พื้น หากต้องการใช้ต่อโดยไม่ให้เปลี่ยนก็ให้แขกแขวนไว้ มีกล่องกดสบู่อาบน้ำและแชมพูสระผม
ตั้งขวดน้ำให้ดื่มฟรี 2 ขวด แก้วคว่ำอยู่ในที่รองแก้ว
ราวแขวนเสื้อผ้าที่ไม่ต้องอยู่ในตู้ให้เปลืองพื้นที่
ห้องน้ำแบบใช้ฝักบัว ไม่มีอ่างอาบน้ำ กั้นด้วยกระจก ช่องเดินเข้าออกไม่มีประตู เครื่องทำน้ำอุ่นแบบแยกเฉพาะของแต่ละห้อง ทำน้ำร้อนได้อย่างรวดเร็วเปิดประมาณ 7 วินาทีก็อุ่นแล้ว
อ่างล้างหน้าแบบเปลือยด้านล่าง มีเฉพาะน้ำปกติ ไม่มีน้ำอุ่น
เช้าตื่นมาก็เดินไปหาโจ๊กที่อยู่ใกล้ๆ โรงแรม สั่งเมนูโจ๊กฮ่องเต้ 50 บาท อิ่มอร่อย ไม่จำเป็นต้องเป็น ABF หรือ CBF
บริเวณใกล้ๆ เคาน์เตอร์เช็คอินมีบริการกาแฟฟรี ผมก็ได้อาศัยดื่มกาแฟตรงนี้ ถ้าแขกท่านใดต้องการทานข้าวก็มีข้าวกล่องสำเร็จแช่แข็งของ CP นำไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์เช็คอิน แล้วนำมาอุ่นด้วยไมโครเวฟที่มีบริการ บริเวณนี้ก็มีห้องน้ำให้ได้ใช้ด้วย
นับว่าเป็นการบริหารจัดการที่ดีมากทีเดียว มีบริการพื้นฐานที่เป็นมาตรฐาน อยู่ย่านใจกลางเมือง ราคาไม่แพง พอรับได้ จำนวนห้องพัก 70 ห้อง มีสิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการอย่างที่ผมได้อธิบาย จากการสอบถามพนักงานที่เคาน์เตอร์ที่โรงแรมแห่งนี้ใช้พนักงาน 13 คนครับ
อัตราส่วนจำนวนห้องพัก : จำนวนพนักงาน = 1 : 0.19 (ตามเงื่อนไขของสิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการที่ให้ดังกล่าว)