Written by : Nattapol Klanwari
เราคงได้ยินชื่อเรียกที่พัก ที่เรียกรวมๆ ว่าโรงแรม (Hotel) ที่มีมากมายหลากหลาย มาดูที่มาที่ไปจากประเทศที่เริ่มต้นใช้กัน จนกระทั่งถึงการนำมาสร้างและใช้เรียกในประเทศไทย
สำหรับเรื่องชื่อเรียกต่างๆ นี้คงต้องย้อนไปดูที่ต้นตอที่มาก่อน นั่นก็คือทางตะวันตก หรือยุโรปและอเมริกา ที่เริ่มใช้เรียกที่พักแบบต่างๆ พอเกิดยุคขยายอาณานิคม ฝรั่งเหล่านี้ก็กระจายกันไปตั้งรกรากในประเทศต่างๆ แล้วก็สร้างที่พักและนำชื่อเรียกเหล่านี้ติดตัวไปด้วย และนำไปใช้เรียกและมีการปรับหรือเสริมแต่งกันเพิ่มเติมไปอีกในแต่ละประเทศ
เริ่มต้นด้วยคำที่เป็นกลางๆ ก่อนคือคำว่า "โรงแรม" (Hotel) เป็นสถานประกอบการที่บริการที่พัก ที่ผู้เข้าพักต้องจ่ายเงินเข้าพักเป็นระยะเวลาสั้นๆ เป็นหลัก คำว่า hotel ได้รับการสืบทอดมาจากภาษาฝรั่งเศสที่เขียนว่า hôtel ซึ่งมีที่มาจากรากศัพท์ของคำว่า hospital เน้นที่การให้การดูแลมากกว่าการเป็นการบริการที่พัก (จากที่เคยเขียนไว้แล้วว่า การเป็นชาวอเมริกันก็คือชาวยุโรปจากประเทศต่างๆ มารวมตัวกันใหม่) ภาษาฝรั่งเศสจะใช้เครื่องหมายบนตัวอักษรโรมัน (circumflex) ต่อมามีการปรับให้ใช้ "s" แทนที่เครื่องหมายที่อยู่บนตัวอักษรโรมัน จึงสะกดเป็น "hostel" (https://en.wikipedia.org/wiki/Hotel)
ต่อมา Hostel ใช้สำหรับที่พักคล้ายหอพักนักศึกษา มีห้องนอนรวมแยกหญิง ชาย อาจใช้ห้องน้ำและห้องครัวร่วมกัน ในราคาที่ไม่แพง เน้นให้ผู้คนมาพบเจอกัน เรียนรู้สังคมอันหลากหลาย
ตัวอย่างที่พักแบบห้องนอนรวม Hostel (แยกชาย หญิง)By Let99 - http://www.hostelmanagement.com/, CC BY-SA 3.0, https://commons.wikimedia.org/w/index.php?curid=3917594
The world's first hostel was established in 1912 at Altena Castle in Germany.
By No machine-readable author provided. Asio otus assumed (based on copyright claims). - No machine-readable source provided. Own work assumed (based on copyright claims)., CC BY-SA 3.0, https://commons.wikimedia.org/w/index.php?curid=390650
การเรียกชื่อต่างๆ ก็มีความแตกต่างกันออกไปทั้งที่ไม่ตั้งใจและตั้งใจเช่น เรียกให้ดูน่าสนใจกับนักท่องเที่ยวที่จะเข้าพัก แต่ถ้าเป็นเรื่องของธุรกิจโดยเฉพาะเรื่องการจดทะเบียนตามกฎหมาย ต้องใช้ชื่อเรียกและจัดบริการตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายของในประเทศที่ดำเนินการด้วย เพราะจะมีผลทางด้านการดำเนินงานและการเสียภาษีตามประเภทที่จดทะเบียนนั้นๆ เช่น คำว่า "โรงแรม" หรือ Hotelในประเทศไทยต้องยึดถือ พระราชบัญญัติ โรงแรม 2547 สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยมีความหมายดังนี้
สามารถคลิ๊กอ่าน พรบ โรงแรม 2547 เพิ่มเติมได้ที่ลิ๊งค์นี้ https://drive.google.com/open?id=1WWD0DLDWKW2xsZ_ZfZKI7bhPK_lLzw3h
ในความเป็นโรงแรม ก็จะมีเรื่องมาตรฐานของแต่ละประเทศและแต่ละองค์กรที่ให้การรับรองความเป็นมาตรฐานนั้น บางประเทศหรือบางองค์กรก็จะกำหนดมาตรฐานเป็น ดาว หรือ มงกุฎ หรืออย่างอื่นแตกต่างกันไป แต่สำหรับประเทศไทยต้องยึดถือ มาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยวโรงแรม/รีสอร์ท มูลนิธิมาตรฐานโรงแรมไทย ที่กำหนดให้เป็นดาว
สามารถดูรายละเอียดมาตรฐานของจำนวนดาวที่โรงแรมจะได้รับ ได้ที่ https://drive.google.com/open?id=1I2yF1KzenhgSEsdi_-_S_uW0FMj8HVgy
Lodge ก็คืออีกคำหนึ่งที่หมายถึงที่พัก เช่นเดียวกับคำว่า hotel การใช้คำว่า Lodge ประกอบอยู่ก็ทราบอยู่แล้วว่าคือโรงแรม เช่น Siam Lodge แต่เพื่อให้แน่ชัดว่าเป็นโรงแรม จึงใส่ให้เต็มเป็น Siam Lodge Hotel ก็กึ่งๆ ซ้อนกันอยู่แต่ก็ไม่เสียหายอะไร
http://pgnet-pattayagogos.blogspot.com/2016/08/86-basaya-beach-hotelnipa-lodge.html
ตัวอย่างชื่อที่พักที่เป็น Lodge โดยไม่ต้องมีคำว่า Hotel เข้ามาประกอบ https://www.facebook.com/TorontoLodge/?rf=580146228828519
Resort Hotel เป็นโรงแรมที่สร้างขึ้นโดยมีสิ่งสันทนาการเป็นเป้าหมายร่วมด้วย สำหรับผู้ที่จะไปพักผ่อนและทำกิจกรรมร่วมด้วย เช่น โรงแรมที่มีคาสิโน โรงแรมที่อยู่ในสวนสนุก โรงแรมที่อยู่ร่วมกับสนามกอล์ฟ หรือโรงแรมที่ติดชายหาด ซึ่งก็ใช้หาดเป็นที่สันทนาการ เป็นต้น
Khaolak Paradise Resort, Phang Nga
Motel เป็นคำย่อของคำว่า "motor hotel" เป็นโรงแรมที่พักที่มีไว้รองรับนักเดินทางที่ต้องขับรถยนต์ในการเดินทาง ผู้ที่ขับรถบรรทุกระยะไกล ราคาไม่แพง มีที่สำหรับจอดรถหน้าห้องพักได้เลย มีขึ้นมาประมาณปี 1950 - 1960
http://www.northcountryinnmotel.com/
Boutique Hotel เป็นโรงแรมขนาดเล็ก จำนวนไม่เกิน 100 ห้อง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดยเด่น เป็นจุดขาย
The Excapital Hotel Bangkok (Boutique Hotel)
Inn เป็นชื่อที่นิยมใช้ก่อนการใช้คำว่า hotel ย้อนไปถึงสมัยโรมโบราณ เน้นเป็นที่พักรองรับนักเดินทาง เช่น คนที่ขี่ม้า หรือผู้ที่เดินทางส่งสาร (Mail coach) ประมาณหลังศตวรรตที่ 17 มีการปรับตัวเป็นที่พักรองรับนักเดินทางด้วยการเดินทางต่างๆ ที่พัฒนาขึ้นกระจายอยู่ทั่วไป
The Tabard Inn, Southwark, London
https://en.wikipedia.org/wiki/Hotel
อีกตัวอย่างของ Inn คือ Tokyo Inn ที่จะตั้งอยู่ใกล้ๆ รถไฟฟ้าหรือรถไฟใต้ดิน ง่ายและสะดวกต่อนักเดินทางที่จะไปเข้าพัก ก็ใช้เพียงคำว่า Inn
Guest House (หรืออาจเขียน Guesthouse) เป็นสถานที่บริการที่พัก ราคาไม่แพง หรืออาจเป็นบ้านของเจ้าของบ้านที่เปิดบ้านให้เป็นที่พักด้วย (ตัวอย่างที่มีบริการในแถบทะเลแคริบเบียน) โดยเจ้าของบ้านก็อยู่อาศัยด้วย แต่แบ่งพื้นที่กันอยู่ การบริการดูแลแบบญาติมิตร อาหารที่ทำโดยเจ้าของบ้าน ความเงียบสงบ บ้านตกแต่งให้เด่นสวยงาม
http://hamiltonguesthouse.ca/
Bed and Breakfast (B&B) ก็คือ Guest House ที่เริ่มเปิดบริการในประเทศอังกฤษ เจ้าของบ้านก็อยู่ที่บ้านด้วย ที่กำหนดเป็น Breakfast เพราะโดยมากเจ้าของบ้านจะไม่ค่อยว่างในตอนเย็น เช่นต้องทำงานเลิกเย็นมาก จึงบริการได้เพียงแค่อาหารเช้าคือทานร่วมกับเจ้าของบ้านเลยในครั้งเดียว
https://www.liberaldictionary.com/bed-and-breakfast/bed-and-breakfast-bb-hotel-perryville-cape-girardeau-st-louis-2/
Bungalow บ้านหลังเดี่ยวชั้นเดียว ขนาดกระทัดรัด ได้รับแนวความคิดเริ่มจากบ้านของเกษตรกรที่ใช้หญ้าแห้งมามุงหลังคา บ้านหลังแรกที่ได้รับการเรียกว่า Bungalow ในประเทศอังกฤษเกิดขึ้นในปี 1869 สำหรับในประเทศอเมริกาเริ่มจาการการเป็นบ้านพักในวันหยุดสำหรับด้านสถาปัตยกรรม นิยมมากระหว่างปี 1900 - 1918
https://www.agoda.com/en-ca/tam-coc-bungalow/hotel/ninh-binh-vn.html?cid=-211
Homestay เป็นการให้บริการที่พักโดยใช้บ้านที่เจ้าของอยู่ให้ผู้เข้าพักอาศัยอยู่ร่วมกับเจ้าของบ้าน ผู้เข้าพักจะได้รับประสบการณ์เรียนรู้สิ่งต่างๆ เช่นวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต จากเจ้าของบ้านหรือชุมชน บางแห่งอาจจัดให้เป็น Farm Stay คือผู้เข้าพักได้มีโอกาสศึกษาการทำการเกษตรไปในตัว Homestay ยังหมายรวมถึงการที่เจ้าของบ้านรับนักศึกษาเข้าพักอยู่ด้วย โดยเจ้าของบ้านจะเรียกว่า Host Family
สำหรับประเทศไทยต้องยึดถือนิยามของคำว่า Homestay จาก กฎกระทรวงฉบับที่ 344 (2562) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
สามารถดูกฎกระทรวงฉบับเต็มดังกล่าวได้ที่ https://drive.google.com/open?id=1O9fBgyoWGgvhYKkrz1hRDgQch0StaGso
ถ้าการเปิดธุรกิจที่พักเป็นไปอย่างถูกต้องโดยเฉพาะการจดทะเบียนให้ถูกประเภทตามกำหนดของทางราชการ ก็จะทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น สบายใจ ไม่ต้องกังวลกับเรื่องรบกวนใจภายหลัง