Written by : Nattapol Klanwari
จากภาคที่แล้วหรือบทความที่แล้วเป็นเรื่องของการเดินทางไป Pennsylvania แบบผจญภัยไปกับรถบัส จนถึงที่หมาย ภาคนี้เป็นเรื่องกิจกรรมที่ต่างๆ โดยเฉพาะที่ State College และที่ Penn State University ติดตามกันครับ ท่านใดที่ยังไม่ได้ติดตามภาคแรกกรุณาคลิ๊กอ่านได้ที่ http://www.trainingreform.com/index.php/training-blog/207-training-blog-108
Pennsylvania เป็นรัฐที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับบที่ 33 ของอเมริกา เมืองหลวงของรัฐคือ Harrisburg ซึ่ง Pennsylvania เป็นหนึ่งใน 13 รัฐที่ค้นพบและก่อตั้งเป็นอันดับแรกในอเมริกา โดย William Penn ในปี 1681 College State เป็นเมือง (City) เมืองหนึ่งในรัฐนี้
ดังที่ทราบแล้วว่า Pennsylvania เป็นรัฐแรกๆ ที่ถูกค้นพบและก่อตั้งขึ้น State College เป็นเมืองที่มีประชากรค่อนข้างหนาแน่น จึงจำเป็นต้องมีการสร้างสถานศึกษาของชุมชนขึ้นโดยเริ่มจากโรงเรียนมัฐยม (High School) เป็นโรงแรียนที่ก่อตั้งโดยชาวเกษตรกร เกิดเป็น Pennsylvania State College ในปี 1855 และพัฒนาขึ้นเป็น Pennsylvania State University ในปี 1953 และได้รับการบริหารจัดการเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐในลำดับต่อมา
ตื่นมาตอนเช้าก็ไปเดินไปหาอาหารเช้าทาน ถ่ายรูปหน้าหอพักที่พญาติพักอยู่ เมื่อคืนเดินไต่บันไดขึ้นไปด้านหลังหอ
ทางขึ้นด้านหลังหอพักที่เดินทางมาถึงตอนกลางคืน
ด้านหน้าหอพัก เป็นห้องพักที่แบ่งย่อยอยู่ในบ้านหลังนี้ ขนาดพื้นที่ประมาณ 100 ตาราฟุต หรือ 9 ตารางเมตร ที่อเมริกาและแคนาดาจะใช้หน่วยพื้นที่เป็นตารางฟุต (1 ตรม. = 10.76 ตรฟ.)
- มีห้องน้ำในตัว
- เครื่องครัว
- ตู้เย็น
- ระบบทำความร้อนและเครื่องปรับอากาศ
- ตู้เสื้อผ้า
- โต๊ะ เก้าอี้ สำหรับทำงาน
ไม่มีเตียงและเครื่องนอน ผู้เช่าต้องจัดหาเข้ามาเอง ไม่มีเครื่องซักผ้า ส่วนใหญ่จะหอบกันไปซักเครื่องหยอดเหรียญที่อยู่ใกล้ๆ
- ราคาค่าเช่าเดือนละ 570 US$
- ค่าอินเตอร์เน็ตเดือนละ 40 เหรียญ
- ค่าน้ำค่าไฟฟ้าประมาณเดือนละ 40 เหรียญ
ถ้าต้องการพักให้สะดวกสบายมากขึ้นก็เช่าอยู่ตึกใหม่ๆ อย่างนี้ ราคาก็ประมาณเดือนละ 1,200 US$
เช้านี้เดินไปหา ABF - American Breakfast ทาน ผมตั้งใจจะไปหาทานร้านที่ขายอาหารเช้าแบบดั้งเดิมของอเมริกาที่คนท้องถิ่นเขาทานกัน พญาติก็เลยพามาร้านนี้
เป็นไงครับ ลักษณะร้านแบบรุ่นเก่า ท่านที่ทำงาน FB รุ่นเก๋าๆ จะร้องอ๋อทันที เราจะพบเจอร้านอาหารสไตล์เก่าๆ แบบนี้แถวๆ ถนนเจริญกรุงในอดีต
ผมสั่ง Waffle with banana topped with whipped cream ราคาจานละ 8.99 US$ และ กาแฟ ที่เดิมได้ไม่อั้นอีกแก้ว ราคา 2.99 US$
พญาติสั่ง Omelette with ham, sausage, and vegetable และ Toast ราคา 9.99$ น้ำเปล่าฟรี ทานไม่หมดต้องใส่กล่องกลับไปทานเป็นมื้อกลางวันต่อไป (ประหยัดไปอีกมื้อ) ผมยังมีข้าวสวยในตู้เย็น ทอดไข่เพิ่มสักสองฟอง โอเคแล้วครับ
ตอนบ่ายก็เดินชมมหาวิทยาลัย ผมระบุข้อมูลคร่าวๆ ก่อนนะคับ แล้วจะได้เดินไปดูตามตึกกัน
ด้านหน้าอาคารห้องสมุด
- Pennsylvania State University หรือเรียกสั้นๆ ว่า Penn State - PSU (ถ้า University of Pennsylvania นั้นจะเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนตั้งอยู่ที่ Philadelphia คนละแห่งกันนะครับ)
- Motto : Making Life Better
- มีนักศึกษาทั้งหมดที่กำลังศึกษาอยู่ 96,000 คน (เฉพาะที่ Main Campus นี้)
- ค่าเล่าเรียน สำหรับนักศึกษาชาวอเมริกัน ปีละประมาณ 31,864 - 35,086 US$
- สำหรับนักศึกษาชาวต่างชาติหรือ International Student ที่ไม่ใช่อเมริกัน ปีละประมาณ 48,268 - 51,490 US$
ค่อยๆ เดินไปดูสถานที่กันครับ
ในอาคาร Student Hub ที่เปิดให้นักศึกษาเข้ามาทำกิจกรรม ทำการบ้าน เปิดทุกวันในช่วงเปิดเทอมตลอด 24 ชั่วโมง อาคารมี 3 ชั้น ชั้นล่างเป็นลานโล่ง ชั้นที่ 2 และ 3 เป็นห้องประชุมและห้องทำกิจกรรมต่างๆ ที่นักศึกษาต้องจองมาก่อน
ขาดไม่ได้แน่ๆ ต้องมีร้านกาแฟ Starbucks
มีร้านอาหารด้วย ส่วนใหญ่ก็จะเป็น Sandwich, Burger ราคาจะอยู่ประมาณ 8 - 10 US$
อาหารเอเชียก็มีครับ เช่นข้าวหน้าต่างๆ แบบญี่ปุ่น มีข้าวขาวและข้าวกล้องให้เลือก สามารถเลือกเนื้อสัตว์ได้ว่าจะให้ราดกี่อย่าง จะเรียกว่า 2 โปรทีน, 3 โปรทีน ราคาก็จะสูงขึ้นอีก ส่วน Topping เลือกได้ไม่อั้น อาหารแต่ละประเภทจะระบุปริมาณของแคลลอรี่ให้เห็นชัด
เนื่องจากที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้เริ่มมาจากพื้นฐานของกลุ่มเกษตรกรรม ดังนั้นการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องอาหารจะเยอะมาก จนเกิผลผลิตที่ขึ้นชื่อของมหาลัยคือ Penn State Berkey Creamery เปิดร้านขายผลิตภัณฑ์ด้านอาหาร เครื่องดื่มและไอศกรีม ขายหน้าร้าน ส่งออกไปข้างนอก และรับสั่งออนไลน์
ทดลองแล้วของเขาอร่อยจริง หอม หวาน มัน จับเป็นก้อนเหนียว ไม่ละลายง่าย สกู๊ปละ 4.75 US$ จะขอผสมสองรสเขาไม่ให้ ก็ถามคนขาย เขาก็บอกว่าเพื่อเป็นการป้องกันว่าอาจมีการข้ามกันของวัตถุดิบที่บางคนอาจแพ้วัตถุดิบนั้น เช่น บางอย่างมีถั่วปน ซึ่งบางคนอาจแพ้ถั่ว
มีน้ำผลไม้ด้วยครับ เยอะมากๆ
ตามเข้าไปนั่งเรียนในห้องเรียนกับนักศึกษาด้วย เป็นวิชา Cyber Laws นักศึกษาจะมีโน้ตบุ๊คกันคนละเครื่องเวลาอาจารย์สั่งงานก็เข้า Login เสิร์ฟเวอร์กลางได้เลย พิมพ์กันเร็วมาก แต่ละกิจกรรมประมาณไม่เกิน 10 นาที ไม่เยิ่นเย้อ
บรรยากาศที่เดินไปตามตึกต่างๆ
บรรยากาศถนนด้านหน้ามหาวิทยาลัย
รถเมล์ที่แล่นให้บริการนักศึกษาไปตามตึกต่างๆ มี 3 สาย รอรถไม่เกิน 5 - 8 นาทีรถก็มา ที่สำคัญให้บริการฟรี ถ้าเป็นรถเมล์ที่แล่นนอกเส้นทางออกไปนอกบริเวณมหาวิทยาลัย ราคาคนละ 2 US$ ตลอดเส้นทาง
สภาพภายในรถเมล์
ถ่ายรูปกับนักศึกษาบ้าง
สนนราคาอาหารตามร้านเล็กๆ หน้ามหาวิทยาลัย
สำหรับผู้ที่สนใจทำงานพาร์ทไทม์ ชั่วโมงละ 10 US$ ทิปอีกต่างหาก ร้านนี้เป็นร้านพิซซ่า
ตอนค่ำก็นัดนักศึกษาและเพื่อนๆ มาทานร้านที่นักศึกษามาสั่งทานอะไรเล่นๆ คุยกัน Fried chicken wings, French fried cheese, Caesar salad และ Taco บนโตีะนี้ก็ประมาณ 70 US$ ร้านก็จะเป็นสไตล์แบบหน้า ม. มีดนตรีสดเล่นด้วย
เช้าเดินทางกลับโตรอนโต้ ก็ขึ้นรถบัสกลับอย่างเดิมคือ State College ฺBus Terminal ที่อยู่ใกล้ที่พักรถออกเวลา 06.15 น. ไปยัง Dubois แล้วเปลี่ยนรถบัสคันใหม่ไปยัง Buffalo จาก Buffalo ผ่านด่าน ตม.แคนาดา ยื่นวีซ่าแคนาดาถ้าผู้ที่อยู่ในแคนาดาเกิน 90 วันต้องมี Work Permit ด้วย
ขากลับเร็วหน่อยครับเพราะใช้เวลารถรอรถคันใหม่ที่ Buffalo ประมาณแค่ 1 ชั่วโมง เดินทางกลับถึงโตรอนโต้ 17.30 น.อย่างสวัสดิภาพ (ข้อสำคัญรถบัสไม่เสีย)
รีบเดินเข้าบ้านไปนั่งเจี๋ยมเจี้ยม เหมือนไม่มีอระไรเกิดขึ้น ก่อนภรรยากลับถึงบ้าน 555