Image by Luidmila Kot from Pixabay
Written by Nattapol Klanwari
การมองโลกในแง่ดีเป็นคุณสมบัติหนึ่งของผู้ที่จะทำงานบริการต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะต้องพบปะเจอะเจอ พูดคุย ให้การบริการกับคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่ในบางกรณีการมองโลกในแง่ดีเกินไปก็อาจนำความเสียหายที่เกินเลยไปได้เหมือนกัน ไม่เฉพาะเกี่ยวกับเรื่องงานการให้บริการ แม้แต่การดำเนินชีวิตก็มีผลกระทบได้เช่นกัน
โดยธรรมชาติของมนุษย์แล้วย่อมต้องการอยู่ใกล้หรือพบปะพูดคุยกับคนที่มองโลกในแง่ดี เพราะจะทำให้พูดคุยได้ด้วยความสบายใจ ไม่เครียด หรือไม่มองอะไรเป็นปัญหาไปซะทั้งหมด การมองโลกในแง่ไม่ดีหรือในแง่ร้ายจะก่อให้เกิดความระแวง กังวลกับสิ่งต่างๆ ไปทั้งหมด สำหรับเจ้าตัวเองก็อาจไม่รู้สึกอะไรกลับคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ทำไมคนอื่นไม่เป็นอย่างที่ตนเองเป็น
บทความนี้จะมาดูแง่มุมต่างๆ ของการมองโลกในแง่ดี โดยผมไม่ขอตัดสินว่าตกลงอย่างไหนดีหรือไม่ดี เราลองมาดูเฉพาะแต่ละสถานการณ์พอเป็นตัวอย่างกันดีกว่า
มีตัวอย่างหนึ่งที่เป็นกรณีในวงการโรงแรมหรืออาจเรียกว่า Classic Case เลยก็ว่าได้ คือ ที่โรงแรมแห่งหนึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่จัดห้องสัมมนาเสร็จเสิ้น ซึ่งก็มีการติดตั้งเครื่องฉายแอลซีดีโปรเจ็กเตอร์ (LCD Projector) ในห้องสัมมนาโดยวางอยู่บนโต๊ะหน้าห้อง ไม่ได้แขวนที่เพดาน หลังจากนั้นมีผู้ชายสองคนแต่งตัวแบบช่างเทคนิค เดินเข้ามาที่ห้องสัมมนา และที่ห้องสัมมนาซึ่งไม่ได้ล็อค แต่มีเจ้าหน้าที่ รปภ. เดินดูแลบริเวณนั้นอยู่ เจ้าหน้าที่ รปภ.ก็สอบถามว่า "มีอะไรให้ช่วยครับ"
ชายสองคนนั้นก็บอกว่า จะมานำเครื่องฉายแอลซีดีนั้นไปเช็คเพิ่มอีกครั้งเพื่อให้ไม่มีข้อผิดพลาดสำหรับการใช้งานในวันพรุ่งนี้ ด้วยความที่มีจิตใจบริการเป็นอย่างดีของ รปภ. ก็จึงอนุญาตและอำนวยความสะดวกต่างๆ ในการถอดออกจากที่ติดตั้ง (ข่าวไม่ได้บอกว่าช่วยขนขึ้นรถไปด้วยหรือเปล่า)
Image by Francisco Lopez from Pixabay
เช้าวันรุ่งขึ้นเจ้าหน้าที่ที่จัดงาน (Organizer) ก็สอบถามทางโรงแรมว่าทำไมไม่มีเครื่องฉายแอลซีดี เจ้าหน้าที่ทางโรงแรมก็บอกว่าเมื่อวานก็ติดตั้งไว้เรียบร้อยแล้ว ก็ต้องสอบถามกันจ้าละหวั่น แน่นอนว่าต้องสอบถามกับ รปภ.ด้วย และ รปภ.ที่เข้าเวรเมื่อเย็นวานก็ออกเวรไปแล้ว ต้องโทรเช็คกัน จนทราบว่าชายสองคนที่แต่งตัวเป็นช่างเทคนิคเป็นใครก็ไม่รู้มาขนเครื่องฉายนั้นไป ซึ่งก็คือโจรดีๆ นั่นเอง
จากตัวอย่างดังกล่าวก็เป็นอุทาหรณ์ว่า การมองโลกในแง่ดี จนเกินไป ไม่เกิดความระแวดระวังให้ดีก็อาจก่อให้เกิดความเสียหายได้ นั่นเป็นเรื่องตัวอย่างหนึ่งในงานสายอาชีพการบริการ
ในการดำเนินชีวิตก็เช่นเดียวกัน การมองโลกในแง่ดีก็ดูจะดี โดยมักเกิดคำพูดที่ว่า "ไม่เป็นไร" หรือ "หยวนๆ" หรือ "คงไม่เป็นไร" ก็ดูสบายๆ ไม่เครียด แต่การมองโลกในแง่ดีเกินไปก็อาจก่อปัญหาตามมาทีหลังได้ เพราะอาจก่อให้เกิดความประมาท ไม่ว่าเรื่องทรัพย์สิน สิ่งของ ความปลอดภัย ตัวอย่างของการมองโลกในแง่ดีจนเกิดความเดือดร้อนตามมาภายหลังที่เราเห็นๆ กันในสังคมเป็นประจำ เช่น การให้เงินยืมกันง่ายๆ แล้วทวงคืนยาก ตอนเขามายืมเงิน เจ้าของเงินเปรียบเสมือนนางฟ้าหรือพ่อพระที่จะช่วยชีวิตผู้ยืมเงินได้เลย แต่พอให้ยืมไปแล้ว เจ้าของเงินหลายรายจะกลายเป็นขอทานไปทันที เพราะต้องบากหน้าไปทวง ทั้งโมโหทั้งอึดอัดในการทวง ทั้งๆ ที่เป็นเงินของเจ้าของเงินที่ให้เขายืมแท้ๆ
อีกตัวอย่างหนึ่งตามที่เป็นข่าวสักระยะหนึ่งก็คือ กรณีที่คุณครูท่านหนึ่งที่เซ็นค้ำประกันให้นักเรียนกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาจำนวนหลายคน พอนักเรียนเรียนจบไปแล้วไม่ยอมไปจ่ายเงินกู้ยืมคืน คุณครูก็เดือดร้อนสิครับ
Image by Thanasis Papazacharias from Pixabay
คงพอเห็นตัวอย่างคร่าวๆ แล้ว อะไรก็แล้วแต่ มากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ดี พอเหมาะพอควรหรือกลางๆ ตามเหตุตามผลน่าจะดีที่สุด ตกลงแล้วท่านเป็นคนมองโลกในแง่ดีระดับใด ลองทำแบบทดสอบพร้อมทราบผลกันได้จากแบบสอบถามถ้าด้านล่างนี้ได้เลย จากนั้นก็นำคะแนนที่ได้มาตรวจกับเฉลยต่อไป โดยคลิ๊กด้านล่างหรือสแกน QR Code ก็ได้
แบบทดสอบการมองโลกในแง่ดี
(คลิ๊กได้เลย)
https://forms.gle/fEGD67T2zTVhJBL87