Written by: Nattapol  Klanwari

เบียร์มีอยู่ด้วยกันมากมายหลายประเภท ความแตกต่างหลักก็อยู่ที่วิธีการผลิตและวัตถุดิบ โดยส่วนใหญ่แล้วเรามักจะจดจำเป็นเฉพาะยี่ห้อๆ ที่เราคุ้นเคยหรือดื่มประจำๆ ถ้าเราทราบถึงข้อมูลประเภทหลักๆ แล้วเราจะได้ดื่มเบียร์อย่างมีอรรถรสมากขึ้นอีกเยอะ และถ้าค้าขายก็จะได้มีข้อมูลในการเลือกด้วย

เบียร์จะแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ๆ คือ เอล (Ale) และลาเกอร์ (Lager) ต่อไปขออนุญาตใช้ภาษาอังกฤษทับศัพท์ไปเลยนะครับ จากภาพด้านบน ถังหมักด้านซ้ายมือเป็น Ale ที่การหมักหรือการทำงานของยีสต์ที่ลอยตัวอยู่ด้านบน ส่วนด้านซ้ายมือคือ Lager ที่การหมักหรือการทำงานของยีสต์จะอยู่ด้านล่างหรือก้นถัง การหมักที่อยู่ด้านบนหรือด้านล่างของถังก็มาจากความแตกต่างของยีสต์ที่ใช้ในการหมักซึ่งจะส่งผลต่อรสชาติ สีและกลิ่นของเบียร์โดยตรง เราไปดูตัวอย่างยี่ห้องกันเลยดีกว่าว่ายี่ห้อไหนเป็น Ale ยี่ห้อไหนเป็น Lager แล้วมันมีอะไรที่แตกต่างกัน

บทความนี้ผมต้องทำงานหนักมาก เพราะถ้าเขียนตามหลักทฤษฎีก็ไม่อินกับเนื้อหา ผมพยายามจะแสดงความเป็นจริงให้ใกล้ตัวให้มากที่สุดให้เคลียร์กันไปเลย ก็เลยต้องไปซื้อตัวอย่างจริงมาเปิด ริน เทียบ สี กลิ่นและชาติด้วยความเป็นจริงกันเลย และที่สำคัญตามที่ผมได้เรียนท่านผู้อ่านไว้แล้วในเรื่องเกี่ยวกับไวน์ว่า เวลาชิมแนะนำให้ชิม 2 ชนิดเพื่อการเปรียบเทียบเพราะถ้าชิมชนิดเดียวแล้ว พอข้ามไปอีกวันชิมชนิดใหม่จะเปรียบเทียบกับชนิดที่ชิมในวันที่ผ่านไปแล้วค่อนข้างยาก แต่ถ้าชิม 2 ชนิด เทียบกันตัวต่อตัวจะสามารถแยกความแตกต่างได้ชัดเจนมากกว่า ไปดูกันเลย

ผมเชื่อว่าหลายๆ ท่านจะพยายามดูว่าเบียร์ยี่ห้ออะไรเป็นส่วนใหญ่ แต่ที่สำคัญกว่าคือ ต้องดูที่ประเภทก่อนครับ ประเภทของเบียร์กระป๋องนี้คือ Ale ต่อไปที่ควรทราบคือเป็นประเภทย่อยที่เรียกว่า IPA ย่อมาจาก India pale ale ต่อไปถึงจะดูยี่ห้อซึ่งก็คือ Boneshaker เพื่อความเข้าใจง่ายๆ ขอเขียนไล่เรียงแบบนี้ครับ

Beer > Ale > IPA (India pale ale) > Boneshaker

เครื่องดื่มประเภทเบียร์ > เป็นเบียร์ประเภท IPA > ยี่ห้อ Boneshaker

เหตุผลที่ผมแนะนำว่าอย่าเพิ่งดูยี่ห้อก่อนเพราะเพราะเบียร์ประเภท IPA มีหลายยี่ห้อ และข้อสำคัญ IPA เป็นเบียร์ประเภท Ale ทีนี้มาดูรายละเอียดข้อมูลรวมถึงรสชาติที่ผมต้องยากลำบากดื่มเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แท้จริงมาเขียนให้ท่านผู้อ่านได้เข้าใจกันอย่างถ่องแท้ (โชคดีที่ ผบทบ.ที่บ้านเข้าใจลักษณะงานของผม)

IPA หรือชื่อเต็ม India pale ale มีต้นตอผลิตในอังกฤษใช้ Hops ที่ปลูกในอังกฤษ อ้าวแล้วไปเกี่ยวอะไรกับอินเดียใช่ไหมครับ เราคงทราบกันดีว่า สมัยหนึ่งอังกฤษเคยปกครองอินเดียมาก่อน เบียร์ชนิดนี้เริ่มผลิตในอังกฤษก็จริงแต่ไปได้รับความนิยมมากในกลุ่มทหารที่ไปตั้งค่ายอยู่ในอินเดีย จึงได้ชื่อที่เกี่ยวข้องมา

     สี: ค่อนข้างเข้ม

     กลิ่น: ฉุนเตะจมูก (ตามการรับกลิ่นและรสของผม)

     รสชาติ: ค่อนข้างขมมาก หลังจากกลืนลงคอไปแล้วให้ความรู้สึกเหมือนดื่มยาขมน้ำเต้าทอง ยังไงยังงั้น (ความรู้สึกส่วนตัว)

     ปริมาณแอลกอฮอล์: 7.1%

     ความจุต่อกระป๋อง: 473 ml (ที่ผมระบุปริมาณบรรจุเพราะอย่างน้อยจะได้ทราบของแต่ละประเทศโดยทั่วไป เช่น ญี่ปุ่น 350, ไทย 330 เป็นต้น)

     บริษัทที่ผลิต: Amsterdam Brewing Company Limi

 

 

 Beer > Ale > IPA (India pale ale) > Goose Island

     สี: ค่อนข้างเข้ม

     กลิ่น: ฉุนน้อยกว่า Boneshaker (เห็นไหมครับผมถึงได้แนะนำให้ชิมเปรียบเทียบอย่างน้อย 2 ชนิด มิเช่นนั้น จะไม่ทราบว่าเปรียบเทียบกับอะไร)

     รสชาติ: ยังขมหน่อยๆ หลังจากกลืนลงคอไปแล้วยังให้ความรู้สึกเหมือนดื่มยมขมน้ำเต้าทองแต่เจือจางลง

     ปริมาณแอลกอฮอล์: 5.9%

     ความจุต่อกระป๋อง: 473 ml

     บริษัทที่ผลิต: Goose Island Beer Company, Chicago, Illinois

 

 

ฺด้านซ้ายมือ

Beer > Lager > Pilsner > Steam Whistle

     สี: เหลืองอำพัน

     กลิ่น: หอมเตะจมูก

     รสชาติ: นุ่ม เสียดลิ้นหน่อยๆ (sharp the palate) ให้อารมณ์น่าดื่มตอนอยู่ในผับแล้วฟังเพลงแบบ EMD

     ปริมาณแอลกอฮอล์: 5 %

     ความจุต่อกระป๋อง: 473 ml

     บริษัทที่ผลิต: Steam Whistle Brewing Canada

ฺด้านขวามือ

Beer > Lager > Grolsch

     สี: เหลืองอำพัน

     กลิ่น: หอมเรื่อๆ

     รสชาติ: อ่อนนุ่ม น่านั่งดื่มชายหาดที่พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน ลมอ่อนๆ หาดเงียบๆ (ดราม่านิดนะครับ)

     ปริมาณแอลกอฮอล์: 5 %

     ความจุต่อกระป๋อง: 500 ml

     บริษัทที่ผลิต: Grolsch Brewery Netherlands

สำหรับสองยี่ห้อหลังนี้จะเห็นว่าทั้งคู่เป็น Lager คือเป็นการหมักด้านล่างของถังหมัก แต่ Steam Whistle เป็น Lager ที่มีความเฉพาะตัวแบบ Pilsner ทีมีรสชาติที่เข้มข้นมากกว่า Lager ธรรมดานิดหน่อย Singha Beer ของไทยเราเป็น Lager ครับ

ยังจะมี Ale และ Lager ที่อยู่ในแบบอื่นอีกมากมาย เช่น Stout, Porter, Bock, Oktoberfest และพวก Craft Beer ที่สรรสร้าง คิดค้นกันขึ้นมาใหม่อีกมากมาย ประเทศที่มีมากจริงๆ ต้องยกให้ประเทศเยอรมันนีเขาเลย ผมขอเน้นหลักๆ ในการดูประเภทแล้วค่อยดูยี่ห้อก่อน

ที่ร้าน LCBO, Canada ที่ขายเหล้าเบียร์ จะมีข้อมูลให้ได้เห็นกันราคาก็ตามที่เห็น

 

Tab Beer จะได้รับความนิยมาก เช่น ร้านนี้ มีประมาณ 40 ยี่ห้อ ตามจำนวนหัวกด ผมไปดื่มได้แล้ว 4 ยี่ห้อ เหลืออีก 36 ยังไม่ได้ลอง

ยังแช่อยู่ในตู้เย็นอีก 3-4 ประเภท เปิดชิมแล้วจะมีเขียนเล่าให้ฟังต่อ บทความนี้ขอจบเท่านี้ก่อน ดื่มเพื่อสุขภาพ เพื่อเจริญอาหาร ดื่มด้วยความรับผิดชอบ และดื่มแล้วไม่ขับรถนะครับ