หลักการเป็นหัวหน้างาน (Principle of Supervisor)

Print

หัวหน้างานหรือ Supervisor มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการดำเนินงานในองค์กร เพราะเขาเหล่านั้นเป็นพนักงานที่ต้องสื่อสารรับนโยบายจากผู้บริหารและนำมาประสานร่วมงานกับพนักงานระดับปฏิบัติการให้เกิดผลสำเร็จตามเป้าหมายขององค์กร ผู้บริหารระดับสูงไม่สามารถมาควบคุมการปฏิบัติงานของพนักงานระดับปฏิบัติการได้ทั้งหมดจึงจำเป็นต้องฝากความคาดหวังไว้กับ Supervisor

โดยทั่วไปการคัดคัดเลือกหรือแต่งตั้งหัวหน้างาน ก็จะทำกการคัดเลือกจากพนักงานระดับปฏิบัติการที่มีผลการทำงานดี มีพฤติกรรมที่ดีเป็นที่ไว้วางใจได้ แต่งานที่ทำได้ดีอยู่เดิมนั้นเป็นการทำงานที่สำเร็จด้วยตนเองเป็นหลัก แต่การเป็นหัวหน้างานเป็นการทำงานที่ให้งานสำเร็จโดยผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ใต้บังคับบัญชา และการประสานกับแผนกต่างๆ มากขึ้น ลักษณะการทำงานจะเปลี่ยนไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง คือเปลี่ยนจากการทำงานกับงานเป็นการทำงานกับคน ซึ่งมีเงื่อนไข เทคนิคและปัญหามากขึ้นจากเดิมมาก บ่อยครั้งที่พบว่าผู้ที่ทำหน้าที่หัวหน้างานยังคงปฏิบัติงานในเนื้องานที่เคยชินอยู่ ไม่กระจายงาน ไม่ติดตามงาน ไม่สอนงาน เป็นต้น

ดังนั้นหัวหน้างานไม่ว่าเพิ่งจะได้รับการแต่งตั้ง หรือปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานอยู่แล้ว หรือแม้แต่พนักงาที่มีศักยภาพที่จะเตรียมตัวขึ้นเป็นหัวหน้างานควรได้รับการอบรมสำหรับการเป็นหัวอน้าที่ดี ซึ่งต้องอาศัยการอบรมบ่มเพาะอย่างเหมาะสม

เนื้อหาของการอบรม

1. บาทบาทหน้าที่ของการเป็นหัวหน้างาน (Role and responsibility of supervisor)

2. การสร้างแรงจูงใจ (Staff motivation technique)

3. การกระจายงานและมอบหมายงาน (Job delegation)

4. การเป็นผู้นำ (Leadership skill for supervisor)

5. การติดตามงาน (Job following up)

6. การประเมินผลงานและการให้ Feedback (Performance appraisal and giving feedback)

ผู้เข้ารับการอบรม

ผู้ช่วยผู้จัดการแผนก หัวหน้างาน และพนักงานที่เตรียมขึ้นเป็นหัวหน้างาน

ระยะเวลาในการอบรม

การอบรม 1 วัน ๆ ละ 6 ชั่วโมง

วิธีการอบรม

การอบรมประกอบด้วยการบรรบาย ประกอบเอกสาร และฝึกปฏิบัติ

จำนวนผู้เข้ารับการอบรม

ผู้เข้ารับการอบรมไม่ควรเกินคอร์สละ 20 คน

เจ้าของหรือผู้จัดการ ถ้าไม่มีหัวหน้างานที่มีประสิทธิภาพรับช่วงต่อ ก็เหมือนขาดแขนซ้ายแขนขวา